der Wanderer

จนกระทั่ง 3 เดือนล่วงไปแล้ว จากวันครบรอบ 120 ชาตกาล ศรีบูรพา และ 6 เดือน ล่วงไป จากวันที่ข้าพเจ้าได้ไปเยือนเขามิตาเกะ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจว่าจะเขียนเล่าเรื่องการเดินทางไปเยือนสถานที่แห่งนั้น ด้วยหวังว่าคงเป็นคุณแก่ผู้มีความประสงค์จะเดินทางในอนาคต ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และข้าพเจ้าคงเขียนเล่าเรื่องนี้ด้วยสำนวนอย่างนพพร มิใช่เพราะข้าพเจ้าเหมือนเขาผู้นั้น แต่เพื่อเป็นการระลึกถึงวรรณกรรมที่ข้าพเจ้าและเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมอุดมศึกษา ได้อ่านร่วมกันมา


หน้าแรกของ ข้างหลังภาพ

เมื่อครั้งที่ข้าพเจ้าไปเยือนมิตาเกะนั้น เป็นช่วงปลายฤดูออทัมน์ ที่ข้าพเจ้ามีกิจไปนำเสนอผลงานวิชาการ ที่คอนเกรสประจำปีของ #สมาคมเวชปรมาณู แห่งญี่ปุ่น ณ นครโยโกฮามะ อันที่จริง ที่ราบคันโตของประเทศญี่ปุ่นนั้น เป็นฉากทัศน์เบื้องหลังเหตุการณ์หลากหลายในเรื่องข้างหลังภาพ เช่น ชายหาดในตำบลกามากุระ สวนสาธารณที่ตำบลอาโอยามาชิฮัง หรืออำเภออาตามิ แต่คงหาที่ใดอันเป็นที่โจษจัน กว่า ภูเขา #มิตาเกะ เป็นไม่มี


บ้านเช่าเดือนละ ๒๐๐ เยน

การเดินทางของข้าพเจ้าเริ่มจาก โรงแรมในโยโกฮามะ ที่ข้าพเจ้าพักอยู่ ด้วยข้าพเจ้ามิได้มีทรัพศฤงคารมากมายพอจะเช่าบ้านค่าเช่าเดือนละ ๒๐๐ เยน เช่นเจ้าคุณอธิการได้ เขามิตาเกะนั้นอยู่ในเขตที่เรียกว่าโอเมะ (Ome) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงโตเกียว การเดินทางโดยรถไฟไปโอเมะมีรถไฟของการรถไฟญี่ปุ่นตะวันออก (JR East) หลายสาย แม้ว่าจะใช้เวลาพอควรแต่ไม่ยุ่งยากอะไรนัก แต่เมือถึงสถานีโอเมะแล้ว จะต้องเปลี่ยนไปขึ้นรถไฟอีกขบวน ซึ่งข้าพเจ้าก็ยอมรับว่าประหลาดใจ เพราะเป็นสายรถไฟเส้นเดิม


ธารน้ำใกล้สถานีรถไฟมิตาเกะ มักเรียกในภาษาอังกฤษว่า Mitake Ravine

ข้าพเจ้าจึงเห็นควรเล่าเรื่องการเดินทางให้กระจ่างไว้ เพราะการเดินทางไปยังเขามิตาเกะนั้น ต้องต่อรถสาธารณหลายขั้น เพราะเมื่อเปลี่ยนรถไฟที่สถานีโอเมะเพื่อไปลงที่สถานีมิตาเกะแล้ว ข้าพเจ้าต้องจับรถบัส (bus) จากสถานีมิตาเกะไปที่เชิงเขา เพื่อไปขึ้นรถเคเบิลคาร์ (cable car) ไปยังยอดเขา และเมื่อถึงยอดเขาแล้ว ก็ยังต้องเดินต่อไปในระยะทางไม่น้อย กว่าจะไปถึง 'ที่พักผ่อนประกอบด้วยทัศนียภาพอันพึงชม' ทั้งหลายบนยอดเขาแห่งนั้น ทั้งนี้ เพื่อความสะดวกสบาย ข้าพเจ้าแนะนำให้ซื้อบัตรไอซีชนิด #Suica หรือ #Pasmo ที่เติมเงินมาให้พร้อม จะช่วยได้มากโดยเฉพาะเมื่อขึ้นรถบัส ซึ่งแม้จะมีเครื่องแลกธนบัตร ก็มีกฎเกณฑ์เป็นที่แน่ชัดว่าจะต้องจ่ายค่าตั๋วให้พอดี และหากประพฤติตัวงก ๆ เงิ่น ๆ ก็อาจเป็นที่รำคาญใจแก่เพื่อนร่วมทางได้


Cable car

แม้ว่าโดยรอบสถานีรถไฟมิตาเกะจะมีทิวทัศน์อันเป็นที่น่าพึงใจ แต่ข้าพเจ้าไม่อาจหาร้านอาหารที่ยินดีรับไกจิน (Gaijin) ที่เร่งรีบเช่นข้าพเจ้าไปรับประทานได้ ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจไปกินเสียดาบหน้า ขึ้นบัสไปต่อเคเบิลคาร์ ยังโชคดีที่โดยรอบจุดชมทัศนภาพใกล้สถานีเคเบิลคาร์ฝั่งบนนั้น มีร้านรวงสองสามร้านให้ข้าพเจ้าได้สั่งโซบะผักป่าร้อน ๆ มาซดกับครีมนุ่ม (soft cream) ดับความหิว


ทางเดินเลียบเขาหลังจากขึ้น cable car แล้ว

จากสถานีเคเบิลคาร์ฝั่งบน ข้าพเจ้ายังต้องเดินตามทางเดินเลียบเขาต่อ เขามิตาเกะในส่วนนี้หาได้ร้างผู้คน แต่มีหมู่บ้านและโรงพักแบบเรียวกังตั้งเป็นหลักแหล่ง ถนนหนทางเรียบร้อยแต่ก็ลาดชันในหลายช่วง กว่าจะไปถึงศาลเจ้าที่มีชื่อว่า มุซาชิมิตาเกะ ทัศนียภาพจากศาลเจ้าแห่งนั้นน่าชม แต่ยังมิได้เรียกร้องให้นึกถึงภาพที่ ศรีบูรพา ได้พรรณาไว้ในเรื่องข้างหลังภาพไม่


ไม่ค่อยแน่ใจว่าคุณหญิงกีรติจะเดินขึ้นอย่างไร หรือว่านพพรอุ้มขึ้นไป?

เหตุนั้น ท่ามกลางความสงบของศาลเจ้ามุชาชิมิตาเกะ ข้าพเจ้าจึงใคร่ครวญคิด ว่าลำธารที่ นพพร ได้พา ม.ร.ว.กีรติ ไปนั่งใต้ต้นสนซีดาร์นั้นอยู่ที่ใด ชะรอยว่าอาจอยู่แถวสวนหินใกล้น้ำตกอายาชิโระ หรือจะอยู่แถวต้นสนซีดาร์บัลลังก์เทพเทงงู (Tengu's Chair Cedar) กันแน่ น่าเศร้าที่เวลานั้นก็บ่ายแก่แล้ว และข้าพเจ้าไม่มั่นใจว่าตนเองจะสามารถลองเสี่ยงไปที่ต่าง ๆ เหล่านั้นได้ทันแก่เวลา หลังจากที่ลองดูลาดเลาทางเดินทั้งหลาย


แผนที่เขามิตาเกะ จาก website

ด้วยเหตุนี้ ข้าพเจ้าจึงมิได้เดินทางต่อไปจากศาลเจ้ามุซาชิมิตาเกะ แต่วกกลับเพื่อลงจากภูเขาแทน


ศาลเจ้า มุซาชิมิตาเกะ

แม้กระนั้น ข้าพเจ้าก็ยังสายล่ากว่าเวลามากนัก จนทำให้ข้าพเจ้าต้องเลื่อนนัดกับเพื่อผู้เป็นนักวิจัยที่สถาบันวิจัยริเคนให้ช้าลงไปถึง 1 ชั่วโมง (ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่า สถาบันวิจัยริเคน กับ มหาวิทยาลัยริคเคียว ที่นพพรเคยศึกษาอยู่นั้น มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร) แต่หลังจากเดินเล่นกันในท่าเรือแถบโยโกฮามะอยู่ช่วงหนึ่ง ข้าพเจ้าก็ต้องขอตัวแยกไปพัก เพื่อเตรียมนำเสนอผลงาน และนัดเจอมิตรเก่าจากค่ายดาราศาสตร์ที่มาเป็นซารารีมังที่โตเกียวในวันรุ่งขึ้น

สรุปการเดินทางไปมิตาเกะ (ตามรอย 'ข้างหลังภาพ') – นั่่งรถไฟไปสถานี Ome –> ต่อรถไฟจากสถานีโอเมะไปสถานี Mitake –> ขึ้น bus จากสถานีรถไฟมิตาเกะไปเชิงเขา –> ขึ้น cable car จากเชิงเขา –> 'เดินต่อ' – ควรเตรียมบัตร Suica (หรือ Passmo) เติมเงินให้เรียบร้อยเพื่อความสะดวก – ควรวางแผนใช้เวลาที่บนเขามิตาเกะทั้งวัน ถ้าจะตามไปดูสถานที่ต่าง ๆ ในเรื่องข้างหลังภาพ จริงๆ – ควรเตรียมอุปกรณ์ 'เดิน' ให้พร้อมลุยเต็มที่ ลืมภาพคุณหญิงกีรติเดินปิกนิคแบบสวยๆ ชิลๆ ไปเสีย

เว็บไซต์ที่เป็นประโยชน์ – Tokyo Mitake Visitor Center: https://www.ces-net.jp/mitakevc/ – Mitake Tozan (รถ cable car): https://www.mitaketozan.co.jp/